หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

8 เหตุผลดีๆ ที่ของหวาน ไม่ได้เป็นผู้ร้ายต่อสุขภาพเสมอไป (ตอนที่ 3)


ข้อที่สาม ของหวานสามารถช่วยกระตุ้นความโรแมนติกได้

        ของหวานบางชนิดมีสารกรตุ้นที่เปรียบเหมือนเป็นยาโดป ตัวอย่างเช่น พายฟักทอง ในฟักทองประกอบไปด้วยสังกะสีที่เป็นตัวช่วยในการเพิ่มระดับฮอร์โมน testosterone จากการศึกษาของ Smell and Taste Treastment Research Center ใน Chicago พบว่า พายฟักทอง ช่วยการไหลเวียนเลือดในอวัยวะเพศชาย และยังลดความกังวลต่างๆ ทั้งในผู้ชาย และ ผู้หญิง นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า Dark Chocolate ดูจะมีอะไรที่มากกว่านั้น  ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Sexual Medicine พบว่า ผู้หญิงที่ชื่นชอบการทานช็อกโกแล็ตทุกวัน มีความสุขในกิจกรรมทางเพศมากกว่าคนที่ไม่ทานเลย พออ่านถึงตรงนี้แล้วลองไปหาของหวานมาทานกันดูนะครับ 

โปรติดตามตอนต่อไปของประโยชน์ของของหวานนะครับ ยังเหลืออีก 5 ข้อ


ที่มา : http://www.rd.com/health/healthy-eating/reasons-eat-dessert/

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

8 เหตุผลดีๆ ที่ของหวาน ไม่ได้เป็นผู้ร้ายต่อสุขภาพเสมอไป (ตอนที่ 2)

เหตุผลข้อที่สอง ของหวานสามารถช่วยลดความดันเลือดได้




             สำหรับคนที่ชอบทานซ็อกโกแล็ต คงจะดีใจไม่น้อยเพราะ เพียงแค่ทานซ็อกโกแล็ตชิ้นเล็กๆ ทุกวันสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันได้  ในปี ค.ศ. 2011 Harvard ได้ศึกษาการรับประทาน Dark Chocolate ชิ้นเล็กๆ ทุกวัน เพื่อลดความดันในเส้นเลือด ในกลุ่มตัวอย่าง 1,106 คน ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นเพราะในซ็อกโกแล็ตที่เต็มไปด้วยโกโก้ (ที่มีเฉพาะใน Dark Chocolate) ที่อุดมไปด้วย Flavonoids , สาร antioxidant ที่ช่วยลดความเครียด และมีประโยคต่อระบบภูมิคุ้มกัน

         ทั้งนี้ทั้งนั้น  Love Food & Health ขอแนะนำว่าควรจะรับประทานเฉพาะ Dark Chocolate เท่านั้นเพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งมักจะผสมอยู่กับซ็อกโกแล็ตทั่วๆไป

8 เหตุผลดีๆ ที่ของหวาน  ไม่ได้เป็นผู้ร้ายต่อสุขภาพเสมอไป (ตอนที่ 3)


ที่มา : http://www.rd.com/health/healthy-eating/reasons-eat-dessert/

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ธาตุทั้ง 4 (ตอนที่ 2)

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรปรับธาตุทั้ง 4
จากตอนที่ 1 ตามปกติแล้วร่างกายของคนเราประกอบด้วยธาตุ 4 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งแต่ละธาตุจะมีกำลังแตกต่างกันไป ดังนี้คือ

  • ธาตุดิน มีกำลัง 21
  • ธาตุน้ำ มีกำลัง 12
  • ธาตุลม มีกำลัง 6
  • ธาตุไฟ มีกำลัง 4
ถ้าร่างกายของเรามีกำลังธาตุครบตามจำนวนที่กล่าวมานี้ ถือว่าเรามีความสมดุลของธาตุทั้ง 4 จะไม่มีอาการเจ็บป่วย แต่ถ้าเมื่อรู้สึกเจ็บป่วยไม่สบาย นั้นแสดงว่าธาตุทั้ง 4 เริ่มไม่สมดุล ซึ่ง แพทย์แผนโบราณเรียกอาการนี้ว่าอาการ "ขาดธาตุ" หรือ "ธาตุอ่อน" ก่อนที่แพทย์แผนโบราณจะรักษาผู้ป่วย จะต้องมีการตรวจเช็คกำลังธาตุของคนป่วยก่อนว่ามีกำลังธาตุของแต่ละธาตุเป็นอย่างไร กำลังธาตุไหนอ่อนมาก อ่อนน้อย หลังจากนั้นจึงจะปรุงยาเพื่อปรับธาตุในร่างกายให้สมดุลก่อน แล้วจึงทำการรักษาโรคตามอาการต่อไป 


ทำไมถึงต้องทำการปรับธาตุให้สมดุลก่อนรักษา
การปรับสมดุลธาตุถือเป็นขั้นตอนพื้นธาตุในการรักษาโรค ทั้งนี้ขออ้างอิงข้อความจากหนังสือหนังสืออโรคยา คาถารักษาโรคและสมุนไพรใกล้ตัว "พ่อเที่ยงกล่าวว่า คนป่วยที่ได้รับการปรับสมดุลธาตุก่อนทำการรักษาจะทำให้การรักษานั้นได้ผลเร็วและมีประสิทธิผลมากขึ้น คนป่วยที่ไม่ได้รับการปรับธาตุ บางคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหมอให้ยามารับประทานที่บ้านพอที่จะหายได้แล้ว แต่กลับไม่หายขาด หรือเป็นๆ หายๆ อาการเช่นนี้ส่วนหนึ่งมาจากธาตุไม่สมดุลนั้นเอง" 

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราขาดธาตุไหน หรือควรลดธาตุไหน Love Food & Health จะขอนำเสนอในตอนต่อไป

ที่มา : หนังสืออโรคยา คาถารักษาโรคและสมุนไพรใกล้ตัว (อ้างอิงตำราของ เที่ยง ชะนะรัง)

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

8 เหตุผลดีๆ ที่ของหวาน ไม่ได้เป็นผู้ร้ายต่อสุขภาพเสมอไป (ตอนที่ 1)


มีใครเคยรู้สึกผิดหลังจากที่กินเค้กไปก้อนโตๆ บ้างไหมครับ ลองมาดูข้อมูลที่ทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายไว้อย่างมีเหตุผล และทำให้เรากินของหวานในมื้อต่อไปได้อย่างสบายใจขึ้นครับ


ของหวาน (บางอย่าง) สำหรับมื้อเช้า ถือว่าเป็นอาหารหลักเพื่อสุขภาพ

หลายๆ คนตอนยังเด็กๆ หรือแม้แต่ทุกวันนี้อาจจะได้ยินแม่เราพูดบ่อยๆ ว่าอย่างเพิ่งกินขนมหวาน หรือของหวาน จนกว่าเราจะกินข้าว กินผัก หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ดูเหมือนจะเป็นอาหารมื้อหลักๆ หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว คุณแม่เราอาจจะต้องตกใจเป็นแน่

จากการวิจัยของ Tel Aviv University ได้ทำการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ 200 คน ให้รับประทานอาหารที่ มีแคลลอรี่ต่ำ โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 100 คน กลุ่มแรกให้ทานอาหารเช้าที่มีพลังงาน 600 แคลลอรี่ ซึ่งประกอบไปด้วย คุกกี้, เคก, หรือ โดนัท ในขณะอีกกลุ่มให้ทานอาหารที่มีพลังงานเพียง 300 แคลลอรี่ ที่ประกอบไปด้วยโปรตีนล้วนๆ ได้แก่ ทูน่า, ไข่ขาว, ซีส และนม 


ผลของการวิจัยออกมาว่า กลุ่มแรก ที่ทานของหวาน มีความรู้สึกต้องการอาหาร หรือมีความหิว ระหว่างวันลดลง และแน่นอนทั้งสองกลุ่มตัวอย่างน้ำหนักลดเหมือนกัน ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สาเหตุที่กลุ่มแรกน้ำหนักลดได้เนื่องจาก การรับประทานอาหารที่มีปริมาณ แคลลอรี่สูงในช่วงเช้า เป็นการให้พลังงานกับร่างกายตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงสิ้นสุดของวัน โดยที่ร่างกายไม่จำเป็นต้องการพลังงานเพิ่มอีก แต่ทั้งนี้ของหวานที่รับประทานควรเป็นของหวานที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงแบบไทยๆ หรือแพนเคกกล้วยหอมลาดน้ำผึ้งอย่างฝรั่งๆ ก็ไม่เลวนะครับ แต่ควรงดเว้นของหวานที่มีส่วนประกอบของไขมันอิ่มตัว น้ำตาลทรายที่มากเกินไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรทานให้อยู่ในประมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปครับ ส่วนเหตุผลข้อต่อไป สามารถคลิกเข้าไปอ่านได้ที่ 8 เหตุผลดีๆ ที่ของหวาน  ไม่ได้เป็นผู้ร้ายต่อสุขภาพเสมอไป (ตอนที่ 2)

ที่มา : http://www.rd.com/health/healthy-eating/reasons-eat-dessert/

พฤติกรรมการรับประทานอาหารว่างของคนเอเชีย

Love Food & Health ขอนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการทานอาหารว่างของคนเอเชียจากผลสำรวจของ YouGov พบว่า

91% มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารว่าง
24% คือรับประทานอาหารว่างในแต่ละวัน (ติดอาหารว่าง) โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้หญิง (57%)

2 ประเทศอันดับต้น ๆ ที่มีการติดอาหารว่างมากที่สุดคือ อินโดนีเซีย (24%) และออสเตรเลีย (17%)


ที่มา : https://th.yougov.com/th/news/2015/04/29/snacking-th/





วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ธาตุทั้ง 4 (ตอนที่ 1)

ร่างกายของคนเราประกอบขึ้นด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ไฟ และ ลม 



ธาตุดิน

ได้แก่ อวัยวะส่วนต่างๆ ทั้งที่มองเห็นภายนอก และภายในที่ไม่สามารถมองเห็นได้ อาทิเช่น ผม ขน เล็บ ผิวหนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ตับ ไต ลำไส้ กระเพาะอาหาร หัวใจ ปอด ม้าม เส้นเอ็น ฟัน ลิ้น เป็นต้น

ธาตุน้ำ

ได้แก่ ส่วนประกอบที่เป็นน้ำทั้งหมดในร่างกาย เช่น เลือด น้ำดี เสลด เหงื่อ น้ำลาย น้ำเหลือง ปัสสาวะ น้ำมูก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำตา เป็นต้น

ธาตุลม 

ได้แก่ ลมหายใจ ลมที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหว ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องล่าง เช่นลมที่ช่วยขับเคลื่อนอาหารไปตามลำไส้ หรือลมที่ช่วยให้หัวใจเต้น สูบฉีดเลือดไปตามเส้นเลือดน้อยใหญ่ เป็นต้น

ธาตุไฟ

ได้แก่ ไฟที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น ไฟที่เผาผลาญอาหารให้ย่อย ไฟที่ทำให้ร่ายกายทรุดโทรม


ธาตุทั้ง 4 นี้ เมื่อมีความสมดุลกันจะทำให้ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แต่ถ้าเมื่อใดธาตุทั้ง 4 นั้นเสียความสมดุล ร่างกายก็จะมีปัญหา เกิดอาการไม่สบายเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้น เหมือนกับเครื่องจักรที่อะไหล่ดี ไม่มีอะไรชำรุด เครื่องยนต์ก็ทำงานปกติ แต่ถ้าอะไหล่ตัวใดตัวหนึ่งเสื่อมสภาพลงไป ก็จะทำให้เครื่องนั้นทำงานติดขึด จนถึงเครื่องดับไปเลยก็มี

ร่างกายเราก็เช่นเดียวกัน ถ้าธาตุในร่างกายเสียสมดุลไปก็จะทำให้ร่างกายมีปัญหา เจ็บไข้ได้ป่วยหนักบ้างน้อยบ้างตามส่วนที่บกพร่อง

ดังนั้นการรักษาสมดุลของธาตุทั้ง 4 จึงมีความจำเป็นวิธีรักษาสมดุลของร่างกายเราที่ง่ายที่สุด คือ การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกายตามความเหมาะสม ทำจิตใจให้สดใส แค่นี้เราก็มีสุขภาพที่ดี มีธาตุที่สมดุล แต่ถ้าเกิดเราเจ็บป่วยขึ้น แสดงว่าเราจำเป็นต้องปรับสมดุลให้กับธาตุทั้ง 4

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรปรับธาตุทั้ง 4 : ธาตุทั้ง 4 (ตอนที่ 2)

ที่มา : หนังสืออโรคยา คาถารักษาโรคและสมุนไพรใกล้ตัว (อ้างอิงตำราของ เที่ยง ชะนะรัง)
ขอบคุณภาพจาก www.samunpri.com

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โรคคลั่งคลีน

"คลั่งคลีน" คืออะไร

โรคนี้เกิดจากอาการป่วยทางจิตที่เคร่งครัดเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์มากเกินไป คือ ไม่กินคาร์โบไฮเดรต ไขมัน น้ำตาล บางคนถึงขั้นตัดขาดไขมันและโปรตีน เพราะมีความเชื่อว่าสารอาหารเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ ถ้าวันไหนเผลอกินไป วันรุ่งขึ้นต้องออกกำลังกายอย่างหนัก ซึ่งสุดทายแล้วจะนำไปสู่ความเครียด ฟังแล้ว โรคนี้มีอาการคล้ายกับ "อะนอเร็กเซีย" ต่างกันตรงที่คน "คลั่งคลีน"​จะไม่ยอมแตะอาหารที่มี คาร์โบไฮเดรด โปรตีน แต่ยังคง กินผักหรือผลไม้ได้บ้าง ขณะที่ "อะนอเร็กเซีย" แทบไม่แตะอาหารเลย


"การกินที่ถูกต้องควรกินอย่างไร"

การกินที่ถูกต้องควรกินให้ครบ 5 หมู่ โดยอาหารต้องสดสะอาด ไม่มีผงชูรสหรือสารกันบูด ควรดูว่าตัวเองมีน้ำหนักส่วนสูงเท่าไหร่ รวมถึงมีโรคประจำตัวหรือไม่ เพื่อคำนวณว่าร่างกายต้องการพลังงานเท่าไหร่ อีกทั้งควรปรับการกินอาหารให้ถูกต้อง เช่น ในกรณีที่คุณชอบคาร์โบไฮเดรต ก็ควรเปลี่ยนมาเป็นแบบที่ยังไม่ขัดสี ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างพอประมาณ การกินที่ถูกต้องควรเดินทางสายกลาง อย่าให้ถึงกับ "ใส้สะอาด แต่สุขภาพแย่"



ที่มา: คอลัมน์ HEALTH CHECKUP นิตยสารแพรว ฉบับที่ 890

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Ginger Fried Chicken [Healthy Food]

ไก่ผัดขิง

Style: Thai
Best For: Everyone  
Ingredients: Rice,Chicken Breast Minced, Ginger, Shiitake, Garlic, Chili

Calories:  240 Cal 
Carbo: 20
Protein: 32
Fat: 0



"ไก่ผัดขิง" 

ไร้น้ำมัน ใช้อกไก่ไร้หนัง แล้วนำมาปั่นกับเครื่องปั่นที่สะอาดปลอดภัย รสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับมื้อเย็นหรือมื้อไหนก็ได้ที่เราทานอาหารที่มีน้ำมันมาเพียงพอแล้วแล้วไม่อยากบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันเพิ่มในวันนั้นๆ 

"ขิง" 
     จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายของเรา เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเส้นใยจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ของขิงนั้น เราสามารถนำมาใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น และผลก็ได้ทั้งนั้น (ที่มา : www.medthai.com)


facebook  Instagram  
@lovefoodandhealth


กางขา แกว่งแขน ลดพุง ล้างพิษ พิชิตโรค




               หลายๆ คนที่มีโอกาสได้เดินผ่าน sky walk ระหว่าง BTS สยาม - BTS ชิดลม  อาจจะคุ้นตากับภาพข้างบนนี้ วันนี้ LOVE FOOD AND HEALTH ขอนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการแกว่งแขนแบบคร่าวๆ พร้อมกับขอแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการแกว่งแขนลดพุงที่ราคาไม่แพงสามารถสั่งซื้อได้ผ่าน Web Site ของทางสำนักพิมพ์โดยคลิกตรงรูปตัวอย่างปกหนังสือด้านล่างได้เลย

 ปกหนังสือ



เนื้อหาโดยสังเขปของหนังสือ
            การบริหารแกว่งแขน เป็นการออกกำลังเพื่อบริหารร่างกายที่มีประโยชน์มากวิธีหนึ่งหลังจากได้มีผู้ทำการค้นพบและเผยแพร่ตำรานี้ออกมาในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในปัจจุบันมีผู้นิยมทำกายบริหารแกว่งแขนเพิ่มจำนวนมากขึ้นในทุกปีและโรคบางชนิดที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้โดยทางการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่กลับสามารถใช้วิธีการบริหารแกว่งแขนแบบง่ายๆ นี้รักษาให้หายขนาดได้ ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก นับเป็นเรืองที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ การบริหารการแกว่งแขน ทำได้ง่ายๆ สะดวกทุกที่ทุกเวลา มีประสิทธิภาพในการบำบัดโรคได้รวดเร็วอีกด้วย โรคเรื้อรังทุกชนิด ส่วนมากรักษาให้หายขาดได้ โดยวิธีทำกายบริหารแกว่งแขนนี้อันที่จริงไม่ว่าจะเจ็บป่วยด้วยโรคชนิดใดก็ตามหาใช่ว่าจะเป็นเรื้อรังอยู่เช่นนั้นตลอดไป ชีวิตไม่ หากมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ เชื่อแน่ว่า จะต้องหายขาดจากโรคได้อย่างสิ้นเชิง 


 ขอบคุณหนังสือดีๆ จากสำนักพิมพ์อักษรธรรม

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Basil Fried Chicken [Healthy Food]


ข้าวกะเพราอกไก่สับ
Style: Thai
Best For: Everyone  
Ingredients: Rice,Chicken Breast Minced, Garlic, Basil, Chili

Calories:  240 Cal 
Carbo: 20
Protein: 32
Fat: 0






"กะเพรา" 
       จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาโรคได้หลายชนิด ทั้งตำรับยาไทยและต่างประเทศก็ระบุว่ากะเพราเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลายด้าน อย่างตำราสมุนไพรไทยบ้านเราก็บรรยายสรรพคุณของกะเพราเอาไว้ว่า รสฉุน ร้อน ช่วยขับลมแก้ซาง แก้ท้องขึ้น จุกเสียดแน่นท้อง ปวดท้อง ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยบำรุงธาตุ เป็นต้น และในต่างประเทศก็มีการใช้กะเพราในการรักษาโรคกันอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าบ้านเราเสียอีก โดยเฉพาะประเทศอินเดีย เขาถือว่ากะเพราเป็นยารักษาโรคได้ทุกโรค และยังจัดเป็นราชินีแห่งสมุนไพร (The Queen of herbs) หรือเป็นยาอายุวัฒนะ (The Elixir of life) เลยก็ว่าได้
          กะเพราะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ กะเพราะแดง และ กะเพราะขาว โดยกะเพราแดงจะมีฤทธิ์ที่แรงกว่ากะเพราขาว ในสรรพคุณทางยาจึงนิยมใช้กะเพราแดง โดยส่วนที่นำมาใช้ทำเป็นยาสมุนไพร ก็ได้แก่ ส่วนของใบ ยอดกะเพรา (ทั้งสดและแห้ง) และทั้งต้น แต่ถ้านำมาใช้ประกอบอาหารจะนิยมใช้กะเพราขาวเป็นหลัก (ที่มา : www.medthai.com)




facebook  Instagram  
@lovefoodandhealth



วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Natural Superfoods to Reduce Anxiety

อาหารลดความเครียด หรือความวิตกกังวล

           หลายๆ คน เวลาที่มีความเครียด หรือความวิตกกังวลมากๆ มักจะหาทางออกด้วยการ "กิน" โดยเฉพาะของหวาน อย่างเช่น เค้ก ไอศครีม ซ็อคโกแล็ด เลยไปจนถึงอาหารมื้อหนักๆ อย่างบุฟเฟต์ ตามร้านอาหาร หรือโรงแรมมีชื่อ พอรู้สึกตัวอีกที หลายๆ คนมักจะรู้สึก "ผิด" กับสิ่งที่ทำลงไป 

       จริงๆ แล้วการ "กิน"​เพื่อระบายความเครียด นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่จะดีไม่น้อยถ้าหากเราเลือกกินอาหารที่สามารถช่วยความเครียดสักหน่อย Love Food & Health มีอาหารที่หาทานง่ายๆ นอกจากจะช่วยทำให้สุขภาพใจเราดีขึ้น แล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายได้ด้วย อันได้แก่ 

อะโวคาโด
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
กล้วย
ส้ม
ชาคาโมไมล์
น้ำมันมะพร้าว
Dark Chocolate
เมนูไข่ต่างๆ
กรีกโยเกิร์ต
ถั่วต่างๆ
หอยนางรม
ปลาแซลมอน
สาหร่ายต่างๆ
เมนูไก่ต่างๆ
ขมิ้น

        จะเห็นได้ว่ามีอาหารมากมายให้เลือก แล้วแต่ความชอบและกำลังทรัพย์ หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว หวังว่าคงจะมีทางเลือกในการเลือก "กิน" อาหารเพื่อลดความเครียดที่ดีต่อสุขภาพกาย และใจ นอกจากนี้แล้วอย่าลืม "ออกกำลังกาย" เป็นประจำ

ด้วยความปราถนาดีจาก




วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Grilled Chicken Breast [Healthy Food]


ข้าวอกไก่นุ่มย่าง


Style: Fusion Food
Best For: Everyone  
Ingredients: Rice,Chicken Breast, Garlic, Black Pepper, Salt, Coconut Oil, Broccoli.
Calories:  295 Cal 
Carbo: 25
Protein: 35
Fat: 3*

*ไขมันดีจากน้ำมันมะพร้าว 100%






"อกไก่ไร้หนัง ไร้ไขมันจากสัตว์ แต่เราเพิ่มไขมันดีอย่างเช่นน้ำมันมะพร้าว ลงบนกะทะย่าง นอกจากเพื่อเพิ่มความหอม และไม่ทำให้อกไก่แห้งจนเกินไป ยังเพิ่มคุณค่าทางอาหารอีกด้วย"




facebook  Instagram  @line 
@lovefoodandhealth



TOFU FAJUTAS [Healthy Food]


Style: Mexican
Best For: Vegetarian, Vegan 
ingredients: Tofu, Peppers, Mushroom, Black Pepper, Salt, Olive Oil, Paprika, Chili Powder, Cumin, Black or Red Bean, Avocado (Optional)
Calories: 427 Cal 
Carbo: 28
Protein: 36
Fat: 19*

*ไขมันดีจากน้ำมันมะกอก 100%




facebook  Instagram @line 
@lovefoodandhealth



วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไขมันจากมื้ออาหาร

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับไขมันจากมื้ออาหาร

            การงดหรือการตัดการรับประทานไขมันนั้น ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าไขมันไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกชนิด ไม่จำเป็นต้องงดไขมัน เพียงแต่ต้องเลือกและงดไขมันชนิดอิ่มตัว และเพิ่มไขมันชนิดดีเข้าไป โดยหลักแล้วไขมันที่แนะนำให้งดคือไขมันที่มาจาก นม เนย ชีส และเนื้อสัตว์บางชนิด โดยไขมันดีที่ยังแนะนำให้รับประทานอยู่คือไขมันที่มาจาก น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า เนื้อปลา และถั่วต่างๆ เนื่องจากไขมันเหล่านี้ดีสำหรับหัวใจ และช่วยเพิ่มระดับคอเรสเตอรอลตัวดีอย่าง HDL ในขณะที่ไขมันอิ่มตัวนั้นเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดจึงแนะนำให้จำกัดปริมาณ

แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าอาหารไหนมีไขมันอิ่มตัวอยู่สูง? 

          สังเกตุง่ายๆ คือ อาหารที่ไขมันอิ่มตัวสูงนั้นเมื่อวางไว้ในอุณหภูมิต่ำจะเกิดไขนั้นเอง วิธีง่ายๆในการเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกายอาจเพิ่มถั่วที่อบแบบไม่ใส่เกลือลงในสลัดจานโปรด ใช้เนยถั่วแบบไม่เติมน้ำตาลแทนแยม หรือครีมชีส หรือใช้ผลอะโวคาโดแทนเนยเป็นต้น

(ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเวปไซต์ Lovefitt.com)

About Love Food & Health



เพราะเราเชื่อว่ารสชาติของอาหารนั้น 
ไม่ว่าจะปรุงตามสูตรเด็ดเคล็ดลับจากตำราไหน ๆ 
ก็ไม่เท่าการปรุงอาหารที่มาจาก 
"ใจ "

บริการอาหารกล่องคุณภาพ สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ ใช้วัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดี และผ่านกระบวนการปรุงอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย 



ข้อมูลเพิ่มเติม 
facebook  Instagram  @line
@lovefoodandhealth